เมนู

ภัททิยาวรรคที่ 55



541. อรรถกถาลกุณฏกภัททิยเถราปทาน



พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ 1 วรรคที่ 55 ดังต่อไปนี้ :-
อปทานของท่านพระลกุณฏกภัททิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ปทุมุตฺตโร
นาม ชิโน
ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้ว ในพระพุทธเจ้าพระ-
องก์ก่อน ๆ ได้สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมากในภพ
นั้นๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ท่านได้บังเกิด
ในตระกูลที่มีโภคะมากมาย ในหังสวดีนคร บรรลุนิติภาวะแล้ว กำลังนั่ง
ฟังธรรมของพระศาสดา ได้มองเห็นภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งพระศาสดาทรงสถาปนา
ท่านไว้ในตำแหน่งที่เลิศกว่าพวกภิกษุผู้มีเสียงไพเราะ แม้ตนเองก็ปรารถนา
ตำแหน่งนั้นบ้างได้ถวายมหาทานอันเจือปนด้วยรสหวาน เช่น เนยใส และ
น้ำตาลกรวดเป็นต้น แต่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขแล้ว ตั้งปณิธาน
ไว้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในอนาคตกาล แม้ข้าพระองค์ก็พึงเป็นเหมือน
ภิกษุรูปนี้ คือพึงเป็นผู้เลิศกว่าพวกภิกษุผู้มีเสียงไพเราะ ในพระศาสนาของ
พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นว่าเขาไม่มีอันตราย
จึงทรงพยากรณ์แล้ว เสด็จหลีกไป.
เขาทำบุญไว้เป็นอันมากจนตลอดอายุแล้ว ท่องเที่ยวไปในเทวโลก
และมนุษยโลก ได้เสวยสมบัติในโลกทั้ง 2 แล้ว ในกาลแห่งพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าพระนามว่า ผุสสะ เขาได้บังเกิดเป็นนกดุเหว่าสวยงาม บินมาโฉบเอา

ผลมะม่วงพันธุ์อร่อยไปจากพระราชอุทาน มองเห็นพระศาสดาแล้วมีใจเลื่อมใส
เกิดความคิดขึ้นว่า เราจักถวายแด่พระพุทธเจ้า. พระศาสดา ทรงทราบความ
เป็นไปทางจิตของเขา จึงทรงรับบาตรแล้วประทับนั่ง. นกดุเหว่านั้นได้วาง
ผลมะม่วงสุกลงในบาตรของพระทศพล. เพื่อจะให้เขาเกิดความโสมนัสใจ
พระศาสดาได้เสวยผลมะม่วงสุกนั้น ขณะที่เขากำลังเห็นอยู่นั้นแล. ลำดับ
นั้นนกดุเหว่านั้น มีใจเลื่อมใส ระงับยับยังอยู่ด้วยความสุขอันเกิดแต่ปีตินั้น
นั่นแลตลอด 7 วัน. ด้วยบุญกรรมนั้นนั่นแหละทุก ๆ ภพที่เขาเกิดแล้ว จึง
ได้มีเสียงไพเราะ ในกาลแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสปะ เขา
ได้บังเกิดในตระกูลช่างไม้ ได้ปรากฏว่าเป็นหัวหน้าช่างไม้. เมื่อพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าปรินิพพานแล้ว เขาพูดกะพวกประชาชนผู้เริ่มจะก่อสร้างสถูปประ-
มาณ 7 โยชน์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นว่า
เราจักกระทำวงกลมรอบ 1 โยชน์ และส่วนสูงอีก 1 โยชน์. คนเหล่านั้น
ทั้งหมดได้ตั้งอยู่ในถ้อยคำของเขาแล้ว. เขาได้ช่วยกันสร้างเจดีย์อันมีประมาณ
ต่ำ แด่พระพุทธเจ้า ผู้หาประมาณมิได้ ด้วยประการฉะนี้. ด้วยกรรมอัน
นั้นทุก ๆ ที่ที่เขาได้เกิดแล้ว จึงได้มีรูปร่างประมาณต่ำกว่าคนอื่น ๆ. ในกาล
แห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าของเราทั้งหลาย เขาได้บังเกิดในเรือนอันมีสกุล ได้
ปรากฏชื่อว่า ลกุณฏกภัททิยะ เพราะมีรูปร่างต่ำ และเพราะมีสรีระสวยงาม
คล้ายรูปเปรียบทองคำ ฉะนั้น. ในกาลต่อมาเขาได้ฟังพระธรรมเทศนาของ
พระศาสดาแล้ว ได้มีศรัทธา บวชแล้วเป็นพหูสูต เป็นพระธรรมกถึก
แสดงธรรมแก่คนเหล่าอื่นด้วยเสียงอันไพเราะ.

ต่อมาในวันมีมหรสพวันหนึ่ง หญิงคณิกาคนหนึ่ง นั่งรถไปกับ
พราหมณ์คนหนึ่ง เธอมองเห็นพระเถระเข้า จึงหัวเราะจนมองเห็นฟัน.
พระเถระถือเอากระดูกฟันของหญิงคนนั้นมาเป็นนิมิต ทำฌานให้บังเกิดขึ้น
แล้ว ทำฌานนั้นให้เป็นพื้นฐานเจริญวิปัสสนา ได้เป็นพระอนาคามี. ท่าน
อยู่ด้วยสติเป็นไปในกายเนือง ๆ วันหนึ่งท่านได้รับคำแนะนำพร่ำสอนจาก
ท่านพระธรรมเสนาบดี จนถึงได้ดำรงอยู่ในพระอรหัต. ภิกษุแสะสามเณรบาง
พวก ไม่รู้ว่าท่านได้บรรลุพระอรหัตแล้ว แกล้งดึงหูท่านเสียบ้าง จับศีรษะ
จับแขน หรือจับมือและเท้าเป็นต้นสั่นเล่น เบียดเบียนบ้าง.
ท่านเป็นพระอรหัตแล้ว เกิดความโสมนัสใจ เมื่อจะประกาศถึง
เรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อนของตน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า
ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน ดังนี้ . บทว่า มญฺชุนาภินิกูชหํ ความว่า เราได้พูด
ได้เปล่งเสียงด้วยเสียงอัน ไพเราะน่ารัก คำที่เหลือในเรื่องนี้ พอจะกำหนดรู้
ได้โดยง่ายทีเดียวแล.
จบอรรถกถาลกุณฏกภัททิยเถราปทาน

กังขาเรวตเถราปทานที่ 2 (245)



ว่าด้วยบุพจริยาของพระกังขาเรวตเถระ



[132] ในกัปที่แสนแต่ภัทรกัปนี้ พระ-
พิชิตมารมีพระนามว่าปทุมุตตระ ผู้มีพระจักษุใน
ธรรมทั้งปวง เป็นพระผู้นำ มีพระหนุเหมือนคาง
ราชสีห์ พระดำรัสเหมือนเสียงพรหม พระสุร-